siamvariety

เพิ่งจบไปหมาดๆเมื่อวันเสาร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา สำหรับ คอนเสิร์ต “Bodyslam Fest วิชาตัวเบา”หลังจากที่แฟนรอคอยกันมานานถึง 8 ปีเต็ม ในที่สุด 5 หนุ่ม ตูน , ปิ๊ด , ยอด ,ชัช และ โอมวง Bodyslam (บอดี้สแลม) ค่าย genie records (จีนี่ เรคคอร์ดส) ก็ได้กลับมาระเบิดความมันที่สนามราชมังคลากีฬาสถานอีกครั้ง ด้วยจำนวนคนดูแสนกว่าคนเต็มความจุทั้ง 2 รอบ และถือเป็นคอนเสิร์ตเปิดอัลบั้มชุดที่ 7 “วิชาตัวเบา” อย่างเป็นทางการด้วย ซึ่งในงานนี้นักร้องสาวเสียงดี แพท วงเคลียร์ เธอก็ได้ร่วมสนุกเป็นส่วนหนึ่งของความมันส์ครั้งประวัติศาสตร์ครั้งนี้ด้วย ละเเธอก็ได้ไปร่วม ร้องโยกไปกับพี่ตูนตลอดค่ำคืน ทั้งนี้ สาวแพท ได้เผยอีกว่า ภาพถ่ายกับ ตูน บอดี้สแลม และ ปาล์มมี่ ถึงแม้จะเป็นนักร้องเหมือนกัน แต่ก็มีศิลปินรุ่นพี่ และถือว่าเป็นไอดอลในการทำงาน และติดตามเป็นแฟนคลับอยู่เหมือนกัน เธอก็อได้แต่ แอบถ่ายอยู่ข้างหลังเพราะทั้งคู่กำลังคุยกันอยู่ไม่อยากกวน ระบุข้อความไว้ว่า เค้ากำลังคุยกันอยู่ เราอยากจะขอถ่ายรูปด้วยก็เกรงใจ ก็เอางี้แหละเนอะ @palmy.ig @artiwara #มี่สวยมากกกกกกร้องเว่าอีสานก็เพราะมากพีคคคคคคคคคคคค

เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยนโยบายสวัสดิการ “มารดาประชารัฐ อนาคตเด็กไทย จากแม่สู่ลูก” ผ่านเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า คงได้ยินได้ฟังกันบ่อยครั้ง ที่พรรคการเมืองบอกเราว่าได้ให้ความสำคัญกับเด็กตั้งแต่เกิดไปจนโต แต่สำหรับพรรค พปชร.แล้ว เราคิดลึกซึ้งกว่านั้น เพราะความสมบูรณ์ของเด็กไม่ใช่แค่ดูแลเมื่อคลอดออกมาลืมตาดูโลกเท่านั้น แต่ต้องดูแลให้ความสำคัญทั้งแม่และเด็กตั้งแต่อยู่ในครรภ์ จึงจะมีสุขภาพและสมองที่ดี มีการพัฒนาเจริญเติบโตในทุกๆ ด้าน สำหรับนโยบายมารดาประชารัฐ เป็นอีกหนึ่งนโยบายที่พรรคได้ให้ความสำคัญกับอนาคตของเด็กไทย โดยจะดูแลตั้งแต่มารดาตั้งครรภ์ไปจนถึงคลอด และจะดูแลต่อไปจนถึงอายุ 6 ขวบ เพราะจากการวิจัยพบว่าช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในการเจริญเติบโตของเด็ก คือตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดาจนถึง 6 ปีแรก ถ้าช่วงเวลานี้เราดูแลเขาอย่างดี เขาจะเติบโตและมีพัฒนาการที่ดี “มารดาประชารัฐจะดูแลตั้งแต่คุณแม่ฝากครรภ์ เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายเดือนละ 3,000 บาท เป็นเวลา 9 เดือน รวมสูงสุด 27,000 บาท ค่าคลอดจำนวน 10,000 บาท หลังจากนั้นจะช่วยเหลือค่าใช้

แม้จะผ่านมา 30 กว่าปี แต่ชื่อของศิริพร อำไพพงษ์ ก็ยังอยู่ในอันดับต้น ๆ ของวงการนักร้องลูกทุ่งและหมอลำ แถมยังมีเพลงยอดนิยมตลอดกาลออกมามากมาย จึงทำให้ไม่ได้มีแค่ทัวร์คอนเสิร์ตในไทยเท่านั้น แต่ยังดังไปไกลจนมีโชว์ในต่างประเทศด้วย ได้แก่ เดนมาร์ก สวีเดน นอร์เวย์ และอังกฤษ เรียกได้ว่าตารางงานแน่นทุกวันจริง ๆ แต่ถึงอย่างนั้น รายการตีท้ายครัว นำโดยเหล่าพิธีกรฝีปากกล้า ก็มีโอกาสนำทุกคนไปเปิดประตูและเยี่ยมชมบ้านของเธอพร้อม ๆ กัน ภาพจาก รายการตีท้ายครัว บ้าน ศิริพร อำไพพงษ์ ที่รายการตีท้ายครัวพาไปชมกัน อยู่ในจังหวัดอุดรธานี บนที่ดินกว่า 12 ไร่ ประกอบด้วยบ้านชั้นเดียว 3 หลังคือ บ้านพี่ชาย เรือนรับรองพระสำหรับทำบุญประจำปี และบ้านของตัวเอง ซึ่งทั้งหมดนี้ซื้อด้วยเงินสดจากน้ำพักน้ำแรงทั้งสิ้น เช่นเดียวกับบ้านอีก 4 หลังในกรุงเทพฯ ที่สำคัญแม้จะมีเงินทองมากมาย แต่ก็ยังคงใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายและสมถะ ภาพจาก รายการตีท้ายครัว ภาพจาก รายการตีท้ายครัว นอกจากนี้ยังนำเงินบางส่วนไปใช้ในการสร้างวัดที่มีชื่อว่า วัดสว่างธรรม เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนขนดินมาถมที่กันเลยทีเดียว แม้ตอนนนี้ยังไม่เสร็จสม

จากเรื่องราวสุดประทับใจที่ถูกแชร์ในโลกโซเชียล ของสุนัขผู้ที่เป้นเพื่อนรักของ ตาสมาน ถึงความน่ารักความผูกพันธ์ระหว่างคุณตาขายน้ำกับหมาคู่ใจ "เจ้าโปเต้" ที่ไม่ว่าตาสมานจะเข็นรถขายน้ำขายกาแฟไปที่ไหน เจ้าโปเต้ก็จะเดินตามไปด้วยกันทุกที่ แต่เมื่อสองวันที่แล้ว เฟซบุ๊ก "Nattapong Ngamsanga" ก็ได้เล่าว่าเจ้าโปเต้ป่วยหนัก ด้วยอาการโรคลมชัก ผมได้ทราบข่าวจึงได้รับเจ้าโปเต้มารักษาที่ โรงพยาบาลสัตว์ ซึ่งในส่วนค่ารักษาผมรับผิดชอบดูแลให้ทั้งหมด ล่าสุด ผู้ใช้เฟซบุ๊กคนดังกล่าวได้โพสต์แจ้งข่าวน่าเศร้า เมื่อเจ้าโปเต้สุนัขข้างกายตาสมานเสียชีวิตแล้วท่ามกลางความเสียใจของตาสมานผู้ที่คอยเลี้ยงดูเจ้าตูบผู้ซื่อสัตย์มา "เมื่อเย็นคุณหมอโทรมาแจ้งกับผมว่า โปเต้อาการไม่ดี อยากให้ผมไปพาตาสมาน มาดูโปเต้หน่อย ผมเลยรีบไปพาตามาดูครับ ตอนนี้น้องโปเต้เสียแล้วนะครับ คุณหมอแจ้งว่าน้องเสียด้วยภาวะหัวใจล้มเหลวครับ" วันนี้ผมพาตาสมาน มาฝังน้องโปเต้ด้วยกันครับ ตาบอกกับโปเต้ก่อนที่ผมจะกลบดินว่า "เต้เอ้ย ชาติหน้ามาเกิดเป็นลูกพ่ออีกนะลูก" ขอขอบคุณ เฟซบุ๊ก Nattapong Ngamsanga

จากกรณีโลกออนไลน์ได้แชร์คลิปจากสมาชิกเฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งได้ถ่ายคลิประหว่างหมอกำลังตรวจคนไข้ โดยบอกต่อหน้าคนไข้ ว่า “ไม่หายแล้วป้า ป้าไม่ตายวันนี้ มันระยะสุดท้ายแล้ว มันจะค่อยๆไป ป้าจะไม่ตายฉับพลัน ที่ป้าเหนื่อยเพราะพิษในเลือด ไม่เกี่ยวกับปอด” พร้อมกับแจ้งว่า เป็นมะเร็งตับระยะสุดท้าย มีอะไรจะทำ สั่งเสียลูกเลย พร้อมกับมีการขึ้นเสียงเป็นระยะนั้น โดยเรื่องดังกล่าวได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ว่า การสื่อสารกับคนไข้ แพทย์ต้องทำอย่างระมัดระวังมากกว่านี้ การแจ้งอาการในคนไข้ระยะสุดท้าย เรื่องกำลังใจเป็นสิ่งสำคัญ พอๆ กับวิธีการรักษาอาการด้วย โดยล่าสุด ญาติได้แจ้งว่า “ป้าได้เสียแล้ว เมื่อวันที่ 5ก.พ.62 และอยากให้มีการลบคลิปดังกล่าวออกจากโลกออนไลน์ โดยอยากให้ป้าไปสบายไม่มีห่วงอะไร” โพสต์ดังกล่าว  โพสต์ดังกล่าว

เป็นอีกเรื่องราวที่กำลังถูกแชร์อย่างต่อเนื่องในโลกออนไลน์ กับพฤติกรรมและคำพูดของคุณหมอในคลิป โดยคลิปดังกล่าวมีความยาวประมาณ 2 นาที ที่บันทึกภาพการสนทนาระหว่าง คุณหมอ คนไข้ และลูกของคนไข้ โดยคุณหมอได้อธิบายโรคให้คนไข้ฟังว่า ตับทำหน้าที่ ขับสารพิษ เลือดเป็นพิษ เข้าใจไหม ป้าเหนื่อยเพราะเลือดเป็นพิษ คนไข้ถามกลับว่า แล้วต้องทำอย่างไรค่ะ คณหมอบอกกลับว่า ไม่หายแล้วป้า ป้าไม่ตายวันนี้ มันระยะสุดท้ายแล้ว มันจะค่อยๆไป ป้าจะไม่ตายฉับพลัน ที่ป้าเหนื่อยเพราะพิษในเลือด ไม่เกี่ยวกับปอด ขณะนั้น มีเสียง ลูกสาวของคนป่วยถามว่า ไม่ได้เกี่ยวกับอากาศหรืออะไรเหรอค่ะ คุณหมอคนดังกล่าว ตอบกับด้วยเสียงที่ค่อนข้างดังว่า ไม่เกี่ยว สารพิษในเลือด ตับไต กำจัดสารพิษไม่ได้ คนไข้ถาม ฟอกไต ไม่หายเหรอค่ะ คุณหมอ ไม่เกี่ยว ป้าเป็นมะเร็งตับ ลูกสาวคนไข้ถาม แล้วหมออีกคนบอกเป็น ก้อนซี๊ด หมอตอบกลับว่า เขาก็เขาพูดปลอบใจคุณ ตับเขาแข็งเป็นก้อนโต ป้าระยะสุดท้ายแล้ว มีอะไรจะทำ สั่งเสียลูกเลย โรคที่ป้าเป็นมันรักษาไม่ได้ รวมๆก็เหลือเวลาอีกประมาณ 2 ปี ทั้งนี้คลิปดังกล่าวผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Sunee Kaewtangsin พร้อมระบุข

แดง นักเขียนบทละครโทรทัศน์ ที่มีชื่อเสียงจากการเขียนบทโทรทัศน์ที่ได้รับความนิยมหลายเรื่อง ทั้ง คู่กรรม, นางทาส, สายโลหิต, ดอกส้มสีทอง รวมถึง บุพเพสันนิวาส เขียนแสดงความคิดเห็นถึง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ โดยเป็นการแชร์โพสต์คำสัมภาษณ์ของธนาธร ที่พูดเกี่ยวกับนิสัยการยิ้มของคนไทย ความว่า ลักษณะนิสัยประจำชาติ ไม่ใช่เรื่องพูดได้เล่นๆตามใจคิด ต้องผ่านกระบวนการเก็บข้อมูลอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่เรียกว่า “การวิจัย” เพราะฉะนั้นจึงไม่ง่ายด้วยเหตุว่ามีตัวแปรมากมายที่ต้องควบคุมให้นิ่งจึงจะสรุปผลได้ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ สรุปนิสัยประจำชาติของคนไทยได้อย่างอัศจรรย์ยิ่ง คุณทำให้ “ยิ้ม”ของคนไทยที่เป็นสัญลักษณ์ของไมตรีจิตรมิตรภาพที่ยอมรับทั่วโลก กลายเป็นความโง่เขลาและเบาปัญญา คุณกล้ามาก เราสงสารคนไทยจัง คุณหมายถึงคนไทยไหนบ้างเนี่ย เราคนไทยนะก็คงเป็นหนึ่งในนั้นแหละ เราชอบความคิดของตัวคุณ ชอบนโยบายพรรคคุณ มันเจ๋งทุกข้อจริงๆ สำคัญที่สุดชอบความเท่าเทียมกันที่คุณจะทำให้มีในแผ่นดินที่ “คนรวยแม่งโคตรรวยกระจุกและคนจนก็โคตรจนกระจาย” เราจำได้ว่าม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมชพูดไว้ว่า “

ทำอะไรก็โดนจับตาและกลายเป็นดราม่าตลอดเวลา สำหรับคู่รักสุดฮอต ไฮโซสงกรานต์ กับ นางเอก แมท ภีรนีย์ หลังเพจดังเผยภาพ อยู่ด้วยกันที่สนามบิน พร้อมบอกว่า หนีเที่ยวแปป ก็เจอดราม่าถึงว่าไม่มีเวลาไปดูลูกสาวเล่นละครเวที หลังมีภาพน้องปีใหม่ ลูกสาว เล่นละครเวทีที่โรงเรียน ด้าน ครอบครัวสาวแอฟ ก็มีภาพถ่ายรวมตัวกันไปเชียร์น้องปีใหม่กันคึกคัก หนีเที่ยวแปป ล่าสุดสาวแอฟ ได้เปิดเผยว่า ที่สงกรานต์ไม่ได้มา เพราะไม่ได้ชวนล่วงหน้า เนื่องจากช่วงนี้ไม่ได้ติดต่อกันอยู่แล้ว หากสงกรานต์ว่างมีคิวมาวันไหน จะติดต่อผ่านทางคุณปู่  ไม่เชิงว่าเราไม่สะดวกให้ติดต่อแต่ทางปฏิบัติเป็นการติดต่อผ่านปู่มากกว่า ส่วนน้องก็ไม่ได้ถามหาพ่ออะไร ก็ทำทุกอย่างเป็นปกติ ซึ่งงานแสดงของโรงเรียนก็เป็นงานธรรมดา ไม่ได้เป็นโชว์พิเศษ” ทีมหนูปี ภาพรวม คุณแม่แอฟไปเชียร์

เป็นอีกเรื่องราวที่กำลังถูกแชร์อย่างต่อเนื่องในโลกออนไลน์ กับพฤติกรรมและคำพูดของคุณหมอในคลิป โดยคลิปดังกล่าวมีความยาวประมาณ 2 นาที ที่บันทึกภาพการสนทนาระหว่าง คุณหมอ คนไข้ และลูกของคนไข้ โดยคุณหมอได้อธิบายโรคให้คนไข้ฟังว่า ตับทำหน้าที่ ขับสารพิษ เลือดเป็นพิษ เข้าใจไหม ป้าเหนื่อยเพราะเลือดเป็นพิษ คนไข้ถามกลับว่า แล้วต้องทำอย่างไรค่ะ คณหมอบอกกลับว่า ไม่หายแล้วป้า ป้าไม่ตายวันนี้ มันระยะสุดท้ายแล้ว มันจะค่อยๆไป ป้าจะไม่ตายฉับพลัน ที่ป้าเหนื่อยเพราะพิษในเลือด ไม่เกี่ยวกับปอด ขณะนั้น มีเสียง ลูกสาวของคนป่วยถามว่า ไม่ได้เกี่ยวกับอากาศหรืออะไรเหรอค่ะ คุณหมอคนดังกล่าว ตอบกับด้วยเสียงที่ค่อนข้างดังว่า ไม่เกี่ยว สารพิษในเลือด ตับไต กำจัดสารพิษไม่ได้ คนไข้ถาม ฟอกไต ไม่หายเหรอค่ะ คุณหมอ ไม่เกี่ยว ป้าเป็นมะเร็งตับ ลูกสาวคนไข้ถาม แล้วหมออีกคนบอกเป็น ก้อนซี๊ด หมอตอบกลับว่า เขาก็เขาพูดปลอบใจคุณ ตับเขาแข็งเป็นก้อนโต ป้าระยะสุดท้ายแล้ว มีอะไรจะทำ สั่งเสียลูกเลย โรคที่ป้าเป็นมันรักษาไม่ได้ รวมๆก็เหลือเวลาอีกประมาณ 2 ปี ทั้งนี้คลิปดังกล่าวผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Sunee Kaewtangsin พร้อมระบุข

เมื่อเวลา 13.00 น.( 12 ก.พ.62 ) ร.ต.ท.(หญิง) จิรยา  ท้องช้อย  รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี  ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุบันไดท้ายรถเทลเลอร์ทับคนตาย  เหตุเกิดภายในโครงการก่อสร้างอาคารพาณิชย์  ภายในซอยพระตำหนัก 6  ม.10  ต.หนองปรือ  อ.บางละมุง จ.ชลบุรี  หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา ในที่เกิดเหตุมีคนงานจำนวนมากมุงดูเหตุการณ์ พบรถเทรลเลอร์บรรทุกรถไถ่อีซูซุ  ทะเบียน 82-3754 ชลบุรี ของ Vไฮเทคเทรลเลอร์  ด้านบนเทรลเลอร์มีรถแม็กโครจอดอยู่  ด้านท้ายพบรถเทรลเลอร์มีร่างผู้เสียชีวิตทราบชื่อนายมนูญ  พงษ์ภัคดี 62 ปี บริเวณที่ศีรษะแตก  ลำตัวมีร่อบรอยการถูกบันไดเทรลเลอร์ทับ  ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามช่วยเหลือโดยการปั้มหัวใจเพื่อยื้อชีวิต  แต่ผู้บาดเจ็บทนพิษบาดแผลไม่ไหวจึงเสียชีวิตในเวลาต่อมา  เจ้าหน้าที่จึงใช้ผ้าขาวคลุมเพื่อไม่ให้เป็นภาพอุดจาดตา  โดยมีลูกชายคือนายพิชัย  พงษ์พัฒน์ดี อายุ 21 ปี ยืนร้องไห้แทบขาดใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา สอบถามนายกรอบชัย สุขรื่น อายุ 31 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า นายมนูญ(ผู้ตาย)ได้โบกร

เชื่อว่าดวงชะตาของคนเรามีขึ้นมีลงแล้วแต่บุญวาสนาด้วย วันที่เราจะมาเผย 5 ราศี เตรียมรวยรับเงินล้าน จะมีดวงด้านโชคลาภ เสี่ยงโชค เป็นวาสนา ความขยัน หมั่นสร้างบุญกุศล จะช่วยหนุนนำให้เจริญ ทั้งด้านการงาน การเงิน ประสบความสำเร็จ จะมีราศีใดบ้างเราตามไปเช็คกันเลย อันดับ 5 ราศีมีน (เกิดระหว่างวันที่ 16 มีนาคม - 12 เมษายน) ความมีใจอารีอารอบ ความมีเมตตากรุณาใจบุญ สุนทาน เห็นอกเห็นใจคนอื่น เข้ากับคนง่าย หวั่นไหวต่ออารมณ์ เจ้ายศเจ้าอย่าง เจ้าระเบียบ รักความประณีต ชาวราศีมีน โดยทั่วไปจะมีนิสัยใจคอแปลกไปกว่าชาวราศีอื่น รักความสวยงาม รักความเรียบร้อยเป็นระเบียบ เป็นคนมีอารมณ์หวั่นไหวง่าย อะไรนิดอะไรหน่อยก็คิดมาก คนราศีนี้ไม่มีพิษมีภัยกับใคร คุณอาจเป็นหนึ่งในคนที่ประสบปัญหาในการงาน เพราะการพยายามทำตามหน้าที่โดยปราศจากความคิด พูดแรง ๆ ได้ว่า การปกป้องตัวเองมากเกินไป การกลัวผิด กลัวพลาด กลัวความล้มเหลว จะทำให้ไม่อาจเติบโตไปได้ การเรียนรู้กับความผิดพลาดจะทำให้คุณมีประสบการณ์มากกว่า และชีวิตที่มีบาดแผลมากมาย เมื่อมันตกสะเก็ดดีแล้ว คุณจะมีภูมิต้านทานสูงขึ้น ชีวิตทางการงานของคุณนั้น ยังมักสำ

อีกไม่กี่วันก็เป็นวันแห่งความรักแล้ว วันนี้ทีมข่าวสยามนิวส์เลยจะพามาดูเรื่องราวความรักที่พบรักกันในเรือนจำ ระหว่างเจ้าพนักงานราชทัณฑ์ ออ-มาลินี คุณสุทธิ์ และนักโทษหญิง อ๊าต-ชาลินี เสนีพงษ์ โดย คุณอ๊าต เคยต้องโทษคดียาเสพติดจนต้องจำคุก จึงได้พบกับคุณออซึ่งเป็นผู้คุม โดยคุณออเป็นผู้คุมที่ดุและเคร่งครัดในกฎระเบียบมาก ทำให้คุณอ๊าตไม่ชอบหน้า แต่คุณออมักจะคอยสอน และให้กำลังใจมาโดยตลอด จนทำให้ทั้งคู่รู้สึกดีต่อกัน แต่ความรักไม่ได้ราบรื่นเพราะ ตามกฎของเรือนจำ ผู้คุมและนักโทษ ห้ามรักกัน จึงทำให้ทั้งคู่ถูกลงโทษ โดย คุณออ เผยว่า "ในเรือนจำมีกฎว่า ห้ามผู้คุมกับนักโทษ รักกัน เราก็เลยแสดงออกกันมากไม่ได้ ต้องแอบเขียนจดหมายหากัน ในนั้นจะเรียกว่า “จดหมายน้อย” เป็นเหมือนไดอารี่ แทนความรู้สึก และก็แอบให้กัน โดยใส่ไว้ในตะกร้า อีกฝ่ายก็จะหยิบไปอ่าน ตลอดเวลาที่อยู่ในนั้นเขียนไดอารี่หากันเป็น 40 – 50 เล่ม จนวันนึงถูกหัวหน้าจับได้ เราทั้งคู่ก็ถูกลงโทษ อ๊าตถูกย้ายด่วนไปขัง ในแดน 1 แดนของนักโทษคดีหนัก ส่วนเราเองก็ถูกย้ายไปคุมที่เรือนจำอื่น ไม่ได้เจอกันเลยหลังจากนั้น จนเวลาผ่านไป 3 เดือน อ๊าตก็ถูก